ความหมายของการตัดต่อ
วิดีโอเป็นองค์ประกอบของมัลติมีเดียที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
เนื่องจากวิดีโอในระบบดิจิตอลสามารถนำเสนอข้อความหรือรูปภาพ (ภาพนิ่งหรือ
ภาพเคลื่อนไหว) ประกอบกับเสียงได้สมบูรณ์มากกว่าองค์ประกอบชนิดอื่นๆ อย่างไรก็ตาม
ปัญหาหลักของการใช้วิดีโอในระบบมัลติมีเดียก็คือ
การสิ้นเปลืองทรัพยากรของพื้นที่บนหน่วยความจำเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการ
นำเสนอวิดีโอด้วยเวลาที่เกิดขึ้นจริง (Real-Time) จะต้องประกอบด้วยจำนวนภาพไม่ต่ำกว่า
30ภาพต่อ วินาที(Frame/Second) ถ้าหากการประมวลผลภาพดังกล่าวไม่ได้ผ่านกระบวนการบีบ
อัดขนาดของสัญญาณมาก่อน
การนำเสนอภาพเพียง 1 นาทีอาจต้องใช้หน่วยความจำมากกว่า 100
MB ซึ่งจะทำให้ไฟล์มีขนาดใหญ่เกินขนาดและมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ด้อยลง
ซึ่งเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถบีบอัดขนาดของภาพอย่างต่อเนื่องจนทำ
ให้ภาพวิดีโอสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและกลายเป็นสื่อ
ที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบมัลติมีเดีย (MultimediaSystem)
การตัดต่อ คือ การเชื่อมระหว่างช็อต 2
ช็อต โดยใช้ 1 ใน 3รูปแบบ ดังนี้
1.การตัดชนภาพ The Cut คือ
การตัดภาพชนกันจากช็อตหนึ่งต่อตรงเข้ากับอีกช็อตหนึ่ง วิธีนี้คนดูจะไม่ทันสังเกตเห็น
2.การผสมภาพ The Mix หรือ
The Dissolve เป็นการค่อย ๆ
เปลี่ยนภาพจากช็อตหนึ่งไปยังอีกช็อตหนึ่ง โดยภาพจะเหลื่อมกัน
และคนดูสามารถมองเห็นได้
3.การเลือนภาพ
The Fade เป็นการเชื่อมภาพที่คนดูสามารถเห็นได้ มี 2
แบบ คือ การเลือนภาพเข้า fade in คือการเริ่มภาพจากดำแล้วค่อย ๆ
ปรากฏภาพซ้อนสว่างขึ้น มักใช้สำหรับการเปิดเรื่อง การเลือนภาพออก fade out คือการทีภาพในท้ายช็อตค่อยๆ
มืดดำสนิท มักใช้สำหรับการปิดเรื่องตอนจบ
ที่มา: https://sites.google.com/site/akkaraphonaung156/khwam-hmay-khxng-kar-tad-tx
ที่มา: https://sites.google.com/site/akkaraphonaung156/khwam-hmay-khxng-kar-tad-tx
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น